สรุปผลการวิจัย (Conclusion) เป็นส่วนสุดท้ายของงานวิจัยหรือ Dissertation ที่ใช้สรุปและตอบคำถามวิจัยหลักๆ โดยรวบรวมสาระสำคัญจากผลการวิจัย และอภิปรายที่ได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้ บทสรุปไม่ควรแนะนำข้อมูลใหม่ แต่ควรเน้นสรุปสิ่งที่ค้นพบจากการศึกษาหรือวิจัยที่ผ่านมา

สรุปผลการวิจัย (Conclusion) ในงานวิจัยคืออะไร?

บทสรุป (Conclusion) เป็นองค์ประกอบสำคัญในงานเขียนเชิงวิชาการและงานเขียนทั่วไป ซึ่งมีหน้าที่ในการสรุปประเด็นหลักและแสดงทัศนคติหรือความคิดเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องที่ได้กล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ บทสรุปยังช่วยให้ผู้อ่านได้รับความเข้าใจที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมดที่นำเสนอไว้ในงานเขียน นอกจากนี้ Conclusion ในงานวิจัยถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่สรุปผลการวิจัยที่ได้ดำเนินการมา และแสดงให้เห็นถึงข้อสรุปของการศึกษาหรือการวิจัยที่ชัดเจน งานวิจัยไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือศาสตร์ใด ๆ ก็ล้วนต้องมีการสรุปผลเพื่อให้เห็นถึงข้อค้นพบ และผลกระทบที่มีต่อวงการวิชาการและการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงความหมายของการสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ในงานวิจัย ความสำคัญของบทสรุป และวิธีการเขียนสรุปผลการวิจัยให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ

ความหมายของสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ในงานวิจัย

คำว่า Conclusion มาจากภาษาละตินที่มีความหมายว่า “จุดสิ้นสุด” หรือ “การสรุป” โดยในงานเขียน Conclusion หมายถึงส่วนท้ายของบทความหรือข้อความ ซึ่งผู้เขียนจะทำหน้าที่สรุปสาระสำคัญจากเนื้อหาที่ได้กล่าวถึงในบทความ และอาจมีการนำเสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความเข้าใจที่สมบูรณ์เกี่ยวกับหัวข้อที่กล่าวถึง เพราะการเขียนสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ไม่ได้เป็นเพียงการสรุปเนื้อหาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความประทับใจสุดท้ายให้กับผู้อ่าน ทำให้พวกเขาจดจำและรู้สึกถึงความสำคัญของเนื้อหาได้เป็นอย่างดี ดังนั้น สรุปผลการวิจัย (Conclusion) จึงเป็นส่วนที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม สำหรับการเขียนสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ในงานวิจัยคือส่วนท้ายของเอกสารวิจัยที่มีหน้าที่สรุปสาระสำคัญจากการวิจัยทั้งหมด ทั้งในแง่ของผลการทดลองหรือข้อสรุปที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล และครอบคลุมถึงข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต หรือประโยชน์ที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ได้จริงในบริบทต่าง ๆ ซึ่งบทสรุปเป็นส่วนที่ทำให้ผู้อ่านได้ทราบผลลัพธ์ของการวิจัย และเข้าใจว่า การวิจัยนี้มีความสำคัญและมีข้อค้นพบใหม่ ๆ อะไรบ้างที่สามารถนำไปต่อยอดได้ และจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อศาสตร์หรือสังคม

ความสำคัญการสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ในงานวิจัย

บทสรุปของงานวิจัย  (Conclusion) เป็นการรวบรวมและสะท้อนสาระสำคัญทั้งหมดที่ได้ทำการศึกษา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในหลายประการ ประกอบด้วย การสรุปเนื้อหา เพราะการสรุปผลการวิจัย (Conclusion) เป็นการรวบรวมและสรุปสาระสำคัญจากบทความหรือรายงาน ทำให้ผู้อ่านสามารถรับรู้และทำความเข้าใจประเด็นหลักได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน ทำให้ผู้อ่านเข้าใจสิ่งที่ค้นพบจากการวิจัยได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปอ่านรายละเอียดในบทก่อนหน้านี้ทั้งหมด โดยจำเป็นจะต้องเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์การวิจัย เพราะการสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ควรเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์การวิจัยที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า การวิจัยนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และได้คำตอบที่ต้องการหรือไม่ ซึ่งการนำเสนอข้อเสนอแนะ เพราะการสรุปผลการวิจัย (Conclusion) เป็นพื้นที่ในการนำเสนอข้อเสนอแนะจากการวิจัย เพื่อช่วยแนะนำแนวทางสำหรับการศึกษาต่อไป หรือการนำผลการวิจัยไปปรับใช้ในสถานการณ์จริง สามารถแสดงทัศนคติและข้อสรุปเป็นโอกาสที่ผู้เขียนสามารถแสดงความคิดเห็นหรือข้อสรุปส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องที่นำเสนอ ซึ่งช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่าน และเพิ่มความน่าสนใจให้กับบทความ และเป็นการยืนยันความสำคัญของการวิจัย เพราะการสรุปผลวิจัยช่วยยืนยันให้ผู้อ่านเห็นถึงความสำคัญของงานวิจัย และผลกระทบที่การวิจัยนี้สามารถสร้างต่อวงการวิชาการหรือชุมชนได้ ช่วยส่งเสริมการกระทำหรือความคิดต่อเนื่อง เพราะการสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ที่ดีสามารถกระตุ้นให้ผู้อ่านคิดต่อหรือทำการค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ได้อ่านไปแล้ว

ส่วนประกอบการสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ในงานวิจัย

บทสรุปงานวิจัย (Conclusion) ควรประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญบางประการเพื่อให้มีความสมบูรณ์และสามารถตอบโจทย์ของการวิจัยได้อย่างครบถ้วน โดยสามารถแบ่งออกเป็นดังนี้

  1.  การสรุปประเด็นสำคัญของการวิจัย เพราะในบทสรุปควรเริ่มต้นด้วยการทบทวนประเด็นสำคัญหรือหัวข้อที่ได้ศึกษา สรุปผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยสั้นกระชับและไม่ลงรายละเอียดมากเกินไป
  2.  การเปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์การวิจัย ควรมีการเชื่อมโยงผลการวิจัยกับวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการวิจัยบรรลุเป้าหมายหรือสามารถตอบคำถามที่ได้ตั้งไว้แต่ต้นหรือไม่
  3. แสดงความหมายหรือผลกระทบ โดยในส่วนนี้ผู้วิจัยควรเน้นถึงความหมายของผลการวิจัย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการวิจัย เช่น ผลกระทบต่อวงการวิชาการ ชุมชน หรือการพัฒนาสังคมในด้านต่าง ๆ
  4. ข้อจำกัดและข้อเสนอแนะ โดยควรกล่าวถึงข้อจำกัดที่พบเจอในการวิจัย และเสนอแนวทางสำหรับการวิจัยในอนาคต ซึ่งอาจเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนาการวิจัยให้ดียิ่งขึ้น

วิธีการเขียนสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ให้มีประสิทธิภาพ

การเขียนสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ในงานวิจัยนั้นมีขั้นตอนและหลักการที่ควรปฏิบัติ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจผลการวิจัยได้อย่างชัดเจน โดยสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1.  สรุปผลการวิจัยอย่างกระชับ เพราะบทสรุปควรสรุปผลการวิจัยอย่างชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดมากนัก แต่ต้องสามารถอภิปรายผลการวิจัยได้ว่าผลการวิจัยนี้มีข้อค้นพบอะไรบ้าง สรุปผลที่ได้อย่างไรบ้าง และควรเน้นเฉพาะประเด็นที่สำคัญที่สุด
  2. ตอบคำถามวิจัยที่ตั้งไว้ เพราะสรุปผลการวิจัย (Conclusion) ควรตอบคำถามวิจัยที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นให้ชัดเจน ว่าผลการวิจัยสอดคล้องกับสมมติฐานหรือเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ และการศึกษานี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในแง่ใดบ้าง
  3. นำเสนอข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคตเพราะหลังจากสรุปผลการวิจัยแล้ว ผู้เขียนควรให้ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต โดยเน้นไปที่ข้อจำกัดที่พบเจอและวิธีการพัฒนาการวิจัยในครั้งต่อไป เพื่อให้ผลการวิจัยมีความสมบูรณ์และแม่นยำมากขึ้น
  4. เน้นถึงผลกระทบและความสำคัญของการวิจัย โดยผู้วิจัยควรแสดงให้เห็นว่าผลการวิจัยนี้มีผลกระทบต่อวงการวิชาการอย่างไร และสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติได้อย่างไร นอกจากนี้ควรเน้นถึงความสำคัญของข้อค้นพบที่ได้

สรุปผลการวิจัย (Conclusion)

ในงานวิจัยส่วนของสรุปผลการวิจัย (Conclusion) เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสรุปผลการวิจัย สร้างความเข้าใจให้กับผู้อ่าน และเชื่อมโยงไปยังประเด็นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ Conclusion ยังเป็นพื้นที่ในการนำเสนอข้อเสนอแนะและข้อจำกัดที่ควรนำไปพิจารณาในการวิจัยต่อไป หรือหากท่านพบปัญหาในการเขียน Conclusion หรือปัญหาในการทำวิจัย สามารถขอคำปรึกษาและใช้บริการทีมงานมืออาชีพ อาจารย์ที่ปรึกษาระดับปริญญาเอก ของ COACH DD หรือ THESIS DD ได้ตลอดเวลา “ดูแลครบ จบชัวร์”

Scroll to Top